ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

“เจิมรถ” เสริมมงคล ที่ไหนดี ที่ไหนปัง !!

 


สมัยก่อนมนุษย์มักไหว้ฟ้า ดิน และบูชาสิ่งเร้นลับ เพื่อให้ได้มีชีวิตที่สงบสุข แม้เวลาผ่านไปจะมีเทคโนโลยีเข้ามา แต่ความเชื่อเหล่านี้ก็ยังคงมีอยู่ เพราะทำให้ผู้คนที่กราบไหว้รู้สึกอุ่นใจว่ายังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอมคุ้มครอง ซึ่งหนึ่งบในพิธีกรรมที่ว่าคือ การเจิมรถใหม่ เป็นความเชื่อที่ส่งต่อกันมาว่า ถ้าสวดคาถาเจิมรถใหม่ แปะยันต์เจิมรถ ท่องคาถาไหว้รถ จะทำให้การเดินทางราบรื่น

การเจิมรถ คือ การทำพิธีต้อนรับรถใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคล หรือไหว้วอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มาดูแลรักษาทั้งรถยนต์และเจ้าของรถยนต์คันใหม่ มาสิงอยู่ในยานพาหนะ หรือวนเวียนอยู่ข้างกาย จึงจำเป็นต้องท่องคาถาไหว้รถ สวดคาถาเจิมรถพร้อมยันต์เจิมรถใหม่ เพื่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ในขณะทำพิธีเจิมรถ

สำหรับในทางพุทธศาสนานั้นมีการประยุกต์การเจิม ซึ่งกล่าวไว้ว่า การเจิม เป็นการทำเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ โดยมีที่มาจากสมัยพุทธกาลด้วยการทำสัญลักษณ์บนจีวรผืนใหม่ เพื่อป้องกันผลอาบัติจากการใช้ผ้าในทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเรียกว่า “พันทุกัปปะ” โดยจะทำเป็นจุดวงกลมเอาไว้ที่มุมจีวรด้วยสีเขียว หรือสีดำคล้ำ เพื่อทำตำหนิให้กับจีวร และแสดงความเป็นเจ้าของ เพราะในสมัยนั้นผ้าเป็นสิ่งของที่หายาก

ในส่วนของการเจิมนั้นยังเป็นเครื่องหมายของการเริ่มต้นใหม่และสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะในโอกาสที่ดีอย่าง งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ ทำให้เกิดการส่งต่อความเชื่อในการเจิมในปัจจุบันด้วย เช่น รถใหม่ ที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในพิธีการเจิมที่เราพบเห็นกันอย่างในทุกวันนี้
เพราะความเชื่อในเรื่องการเสริมสร้างสิริมงคล ที่จะช่วยให้เจ้าของรถนั้นได้ปลอดภัยและแคล้วคลาดจากภยันอันตราย เดินทางได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด และยังพบเจอแต่สิ่งดีๆ ด้วย

ส่วนคนที่อยากเจิมรถก็ต้องนึกถึงวัดยอดนิยมที่มีชื่อเสียงในการเจิม เพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุดและเพื่อความสบายใจนั่นเอง โดยจุดที่เจิมรถส่วนใหญ่นั้นจะมีทั้งการเจิมฝากระโปรงหน้ารถ เพดานห้องโดยสาร ที่บังแดด พวงมาลัยรถ ซึ่งวัดยอดนิยมที่คนนิยมเจิมรถส่วนใหญ่นั้น ได้แก่ 

  • วัดยานนาวา กรุงเทพ
  • วัดสายไหม ปทุมธานี
  • วัดหลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา
  • วัดท่าไม้ สมุทรสาคร
  • วัดบางหญ้าแพรก สมุทรสาคร
  • วัดไผ่ล้อม นครปฐม
  • วัดสว่างอารมณ์ นครปฐม
  • วัดหูช้าง นนทบุรี
  • วัดป้อมรามัญ อยุธยา
  • วัดหนองโพ นครสวรรค์
  • วัดช้างไห้ ปัตตานี
  • วัดฉลอง ภูเก็ต
  • วัดดับภัย เชียงใหม่

ซึ่งถ้าใครไม่สะดวกที่จะไปเจิมรถที่วัดได้ ก็สามารถเลือกเจิมรถได้ด้วยวิธีการนิมนต์พระจากวัดที่ใกล้บ้านมาทำพิธี หรือแม้แต่การทำพิธีด้วยการสวดมนต์ ท่องคาถาไหว้รถและเจิมรถก็สามารถทำได้เช่นกัน 

ของที่ต้องใช้ในพิธีการเจิมรถ

สำหรับการทำพิธีเจิมรถนั้น อาจจะต้องมีการเตรียมของสำหรับพิธีเจิมรถใหม่ เพื่อให้พิธีนั้นครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งของที่ต้องจัดเตรียมนั้นมีดังนี้ 

  1. พานพิธี หากไม่มี สามารถใช้ถาดหรือจานที่วางของได้อย่างเพียงพอ
  2. ดอกไม้ 5 คู่ ธูป 5 คู่ เทียน 5 คู่
  3. พวงมาลัยดอกไม้ 1 พวง
  4. น้ำอบและแป้งดินสอพอง
  5. แผ่นทองคำเปลว
  6. ซองปัจจัยสำหรับถวายพระผู้ทำพิธี ตามจิตศรัทธา

ในการประกอบพิธีนั้นจะต้องมีการถือฤกษ์งามยามดีที่สามารถใช้ในการประกอบพิธี เพราะตามความเชื่อนั้นการที่ประกอบพิธีในเวลาที่เหมาะสมจะช่วยทำให้พิธีราบรื่นและมีความเป็นสิริมงคลต่อผู้ทำพิธี ซึ่งฤกษ์สะดวกในที่นี้อาจจะหมายถึง เวลาที่พร้อมและทำพิธีด้วยความสะดวกใจ

การเสริมมงคลให้กับรถยนต์เป็นความเชื่อแบบไทย ๆ ที่ได้มีมาช้านานตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเสริมมงคลให้กับเรือโดยการไหว้แม่ย่านาง เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนการออกเดินทาง จนในยุคปัจจุบันรูปแบบของวัฒนธรรมที่ได้รับการสืบทอดมาก็มีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งการเจิมรถเสริมมงคลก็เป็นความเชื่อรูปแบบใหม่ ที่มีประกอบไปด้วยการสวดคาถาเพื่อเสริมมงคล แปะยันต์เจิมรถ หรือแม้แต่การท่องคาถาก่อนสตารท์รถร่วมด้วย

ความเชื่อเรื่องการเจิมรถยนต์นั้นเป็นความเชื่อที่ถูกสืบทอดเรื่อยมา ซึ่งในส่วนหน้าที่ของพิธีนั้นถือว่าเป็นการช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่นั้นไม่ประมาท มีสติในการขับรถ เพราะนอกจากเรื่องความศักดิ์สิทธิ์แล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือ เรื่องของความปลอดภัยในขณะขับขี่ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าขาดสิ่งนี้ไปแล้ว ไม่ว่าจะเจิมรถยนต์ที่ไหนก็ไม่สามารถช่วยให้พ้นจากอันตรายได้ การมีทั้งสองสิ่งควบคู่กันไปจึงเป็นเรื่องที่ดี
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม : www.dharayath.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สังฆทาน คือ อะไรและมีความหมาย รวมถึงมีกี่ประเภท

  สังฆทาน คือ อะไร ถ้าแปลตามคำศัพท์เป็นศัพท์ในพระสูตร เป็นชื่อเรียกการถวายทานแก่พระสงฆ์อย่างหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามีอานิสงส์มาก ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทักขิณาวิภังคสูตร ว่าการถวายสังฆทานแก่คณะพระสงฆ์ มีอานิสงส์มากกว่าการถวายทานเฉพาะเจาะจงแก่พระพุทธเจ้า แม้ยังทรงพระชนม์อยู่ ถ้าแยกความหมายเเล้ว  สังฆะ แปลว่า กลุ่ม หรือหมู่  ส่วน ทาน แปลว่าการให้ รวมความหมายได้ว่า ทานที่ถวายให้แก่กลุ่มพระสงฆ์โดยไม่เจาะจงพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง ผู้ทำบุญสามารถถวายอะไรก็ได้ที่เห็นว่าเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของพระสงฆ์ สังฆทานมีกี่ประเภท การถวายโดยอุทิศให้แก่สงฆ์ โดยอุทิศให้เป็นเผดียงสงฆ์ (ไม่ระบุเฉพาะว่าจะถวายรูปไหน) เช่นการถวายสลากภัต แม้พระจะได้รับของที่ถวายแค่รูปเดียว แต่ถือได้ว่าพระสงฆ์ที่มารับถวายเป็นพระที่ได้รับมอบหมายจากสงฆ์ ก็นับเป็นสังฆทานเช่นกัน ให้ทานในสงฆ์ 2 ฝ่าย (ทั้งฝ่ายภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์) มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ให้ทานในสงฆ์ 2 ฝ่าย ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ให้ทานในภิกษุสงฆ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ให้ทานในภิกษุณีสงฆ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว เผดียง...

ไหว้พระพรหม ที่ไหนดี และ ไหว้ยังไงให้ปัง ? ฉบับ ธาราญา !!

  พระพรหม หนึ่งในสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นที่นิยมนับถือทั้งคนไทยและต่างชาติ ไหว้พระพรหมยังไงให้ปัง ใช้ธูปกี่ดอก ขอพรให้สมหวัง ผู้ที่สนใจบูชาต้องอ่าน รับรู้ถึงวิธีร่วมสักการะท้าวมหาพรหม ราชประสงค์ จากความเชื่อว่า  พระพรหมเป็นผู้สร้าง  ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่งในโลก หากใครที่อธิษฐานและบูชาพระพรหมด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ เชื่อว่าจะได้รับพร ให้สมหวังในสิ่งที่มุ่งหวังไว้ และเนื่องจากพระพรหมมี 4 พักตร์ จึงต้องบูชาพระพรหมให้ครบทั้ง 4 พักตร์ 4 ทิศ การไหว้ให้ครบทุกพักตร์จะเป็นการได้รับพรครบทุกประการ  การสวดบูชาพระพรหม จำเป็นต้องสวดบูชาพระพิฆเนศก่อนทุกครั้ง ซึ่งเป็นกฎการไหว้เทพของศาสนาพราหมณ์ทุกนิกาย ความเชื่อในการไหว้พระพรหมนั้นเป็นความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนานในสังคมไทย จะเห็นได้ว่าในหลายๆ สถานที่ทั่วประเทศไทยนั้นมีการตั้งรูปพรพรหมไว้สักการะกันอย่างมากมาย ในบทความนี้จะมาแนะนำถึงขั้นตอน และวิธีการต่างๆ ในการไหว้พระพรหมอย่างถูกต้อง ที่มาของความเชื่อในเรื่องนี้ รวมไปถึงสถานที่สักการะพระพรหมยอดฮิตในประเทศไทย ขั้นตอนการไหว้พระพรหมอย่างถ...

กิจกรรมใน “วันเข้าพรรษา” มีอะไรบ้าง ?

  วันเข้าพรรษา  เป็นวันที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า “จำพรรษา” นั่นเอง โดย วันเข้าพรรษา 2565ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม หรือ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ประวัติวันเข้าพรรษา            “ เข้าพรรษา”  แปลว่า “พักฝน” หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน โดยแบ่งเป็น            –  ปุริมพรรษา หรือ วันเข้าพรรษาแรก  เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี หรือถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง และออกพรรษาในวันขึ้น...