ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อานิสงส์ของการถวาย “หลอดไฟ” ฉบับ ธาราญา !!

 


ในปัจจุบันแต่ละประเทศมีความนิยมใช้แสงไฟเป็นเครื่องประดับในแต่ละพื้นที่ต่างๆในเมืองหลวง เพื่อให้เกิดความสวยงาม เกิดแสงสว่างที่ทำให้น่ามองน่าชื่นชม แสงไฟยังมีความจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวันของคนในสมัยใหม่เช่นกัน แสงไฟมีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นการพัฒนาออกแบบเป็น โคมไฟLED, หลอดไฟLED, สปอร์ตไลท์LED, และโคมไฟถนนLED แต่ละประเภทมีการใช้งานที่แตกต่างกันไปวิวัฒนาการที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างคุณค่าให้แก่แสงไฟ ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้ โคมไฟLED หลอดไฟLED สปอร์ตไลท์LED และ โคมไฟถนน เพิ่มมากขึ้น

            แสงสว่าง เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก หากไม่มีแสงสว่างการจะทำกิจการอะไรก็จะยากลำบาก ดังนั้นการทำบุญถวายโคมไฟให้กับวัดจึงถือเป็นบุญมากอย่างหนึ่ง ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีโคมไฟ นิยมถวายเทียน ตะเกียงเพื่อใช้ในการส่องสว่างให้กับพระสงฆ์ เพื่อให้ท่านได้มองเห็นยามทำกิจกรรมต่างๆ แต่ปัจจุบันเมื่อมีกระแสไฟฟ้าเข้ามาแทนที่ จึงนิยมถวายโคมไฟหรือหลอดไฟ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการถวายดวงประทีปหรือดวงไฟเช่นเดียวกัน

อานิสงค์ของการถวายหลอดไฟ

อานิสงส์ของผู้ที่ถวายหลอดไฟ โคมไฟหรือดวงประทีป จะทำให้ผู้นั้นมีชีวิตเจริญรุ่งเรือง ชีวิตไม่ตกอับมืดมน มีผู้คอยอุปถัมภ์ค้ำจุนอยู่เสมอ เมื่อมีปัญหาก็จะพบทางออก เปรียบเสมือนมีสว่างนำทางให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง

นอกจากนั้น ยังมีความเชื่อเรื่องการถวายดวงประทีปในพระพุทธศาสนา ความว่า ผู้ที่ทำบุญถวายประทีป เมื่อไปเกิดกี่ภพกี่ชาติก็จะสายตาดี ไม่มีความบกพร่องในการมองเห็น เมื่อจากโลกไปแล้วก็จะไปบังเกิดในวิมานที่สว่างไสว เกิดเป็นเทวดาที่มีรัศมีกายสว่างไสว สามารถเข้าถึงความเป็นเลิศด้านทิพยจักขุ เหมือนพระอนุรุทธเถระ ที่ท่านทำการบูชาด้วยประทีปอันโอฬารที่พระสถูปเจดีย์ ด้วยผลบุญนี้จึงทำให้บรรลุทิพยจัษุญาณสมกับปณิธานที่ตั้งไว้ ส่งผลให้ได้รับอานิสงค์ คือ

  • ทำให้เกิดปัญญา ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เปรียบเหมือนแสงสว่างแห่งเทียน
  • ทำให้สว่างไสวรุ่งเรือง ผู้ถวายย่อมทำให้มีความรุ่งเรืองด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ
  • ทำให้คลี่คลายเรื่องราวต่างๆ ที่มีปัญหาให้ร้ายกลายเป็นดี
  • เจริญไปด้วยมิตรบริวาร
  • ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย
  • เมื่อจากโลกนี้ไปย่อมมีกายทิพย์อันสว่างไสว
  • เมื่อลาลับโลกนี้ไปย่อมไปสู่สุคติสวรรค์
  • หากบารมีมากพอ ย่อมทำให้เกิดดวงตาจักษุ คือปัญญารู้แจ้งเข้าสู่พระนิพพาน

วิธีการเลือกหลอดไฟเพื่อใช้ในการถวายวัด

ควรเลือกโทนสีของหลอดไฟที่เหมาะสมกับการใช้งาน ดังนี้

  • Warm White (WW) แสงโทนสีเหลืองส้ม หรือขาวอมเหลือง ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นผ่อนคลาย
  • Cool White (CW) แสงโทนสีขาว ให้ความรู้สึกที่สบายตา ช่วยทำให้วัตถุดูคมชัด นิยมใช้สำหรับส่องวัตถุนั้นให้ดูเด่นชัดมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ในบริเวณที่ต้องการแสงสว่างมาก
  • Day Light (DL) แสงโทนสีขาวอมฟ้า เป็นแสงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีความสว่างใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติมากที่สุด สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี เล่าถึงเรื่องราว อานิสงส์การถวายเทียนหรือหลอดไฟในวันเข้าพรรษาว่า “การถวายเทียนเข้าพรรษา หรือว่า ถวายกระแสไฟในพระพุทธ-ศาสนา เหมือนกัน อย่างนี้ถ้าเกิดเป็นเทวดาจะมีรัศมีกายสว่างมาก ถ้าบรรลุมรรคผล จะเป็นบุคคลผู้เลิศในทิพจักขุญาณ อย่างพระอนุรุทธ”

ท่านได้ถวายเทียนเข้าพรรษาตลอดมา ถวายพระประทีปโคมไฟวัดไหนมืดชอบถวายตะเกียงบ้างน้ำมันบ้างให้มีแสงสว่างต่อมาในชาติสุดท้าย เมื่อเป็น พระอรหันต์วิชชาสาม ท่านสามารถมี ทิพจักขุญาณสว่างกว่าพระอรหันต์ทั้งหมด แม้แต่ พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณก็ยังสู้ไม่ได้

อีกประการหนึ่งถ้าท่านทั้งหลายไปเกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหม ก็จะมีรัศมีกายสว่างมาก เพราะเทวดา นางฟ้า และพรหมเขาถือรัศมีกายเป็นสำคัญเขาไม่ถือเครื่องแต่งกายเป็นสำคัญ องค์ไหนถ้ารัศมีกายสว่างมากองค์นั้นมีบุญมาก เมื่อมีจิตใจเลื่อมใส ได้ทำการบูชาเช่นนี้ พระชินศรีตรัสว่าเป็นมงคลอันสูงสุด

ดังพระบาลีว่า “ปูชาปูชะนียานัง เอตัมมังคลมุตตมัง” การบูชาบุคคลผู้ควรบูชาเป็นมงคลอันสูงสุด อนึ่งชื่อว่าได้ขวนขวายในกิจ อันปราศจากโทษความเดือนร้อนในภายหลังมิได้ ย่อมได้รับผลพิเศษทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สังฆทาน คือ อะไรและมีความหมาย รวมถึงมีกี่ประเภท

  สังฆทาน คือ อะไร ถ้าแปลตามคำศัพท์เป็นศัพท์ในพระสูตร เป็นชื่อเรียกการถวายทานแก่พระสงฆ์อย่างหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามีอานิสงส์มาก ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทักขิณาวิภังคสูตร ว่าการถวายสังฆทานแก่คณะพระสงฆ์ มีอานิสงส์มากกว่าการถวายทานเฉพาะเจาะจงแก่พระพุทธเจ้า แม้ยังทรงพระชนม์อยู่ ถ้าแยกความหมายเเล้ว  สังฆะ แปลว่า กลุ่ม หรือหมู่  ส่วน ทาน แปลว่าการให้ รวมความหมายได้ว่า ทานที่ถวายให้แก่กลุ่มพระสงฆ์โดยไม่เจาะจงพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง ผู้ทำบุญสามารถถวายอะไรก็ได้ที่เห็นว่าเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของพระสงฆ์ สังฆทานมีกี่ประเภท การถวายโดยอุทิศให้แก่สงฆ์ โดยอุทิศให้เป็นเผดียงสงฆ์ (ไม่ระบุเฉพาะว่าจะถวายรูปไหน) เช่นการถวายสลากภัต แม้พระจะได้รับของที่ถวายแค่รูปเดียว แต่ถือได้ว่าพระสงฆ์ที่มารับถวายเป็นพระที่ได้รับมอบหมายจากสงฆ์ ก็นับเป็นสังฆทานเช่นกัน ให้ทานในสงฆ์ 2 ฝ่าย (ทั้งฝ่ายภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์) มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ให้ทานในสงฆ์ 2 ฝ่าย ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ให้ทานในภิกษุสงฆ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ให้ทานในภิกษุณีสงฆ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว เผดียง...

ไหว้พระพรหม ที่ไหนดี และ ไหว้ยังไงให้ปัง ? ฉบับ ธาราญา !!

  พระพรหม หนึ่งในสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นที่นิยมนับถือทั้งคนไทยและต่างชาติ ไหว้พระพรหมยังไงให้ปัง ใช้ธูปกี่ดอก ขอพรให้สมหวัง ผู้ที่สนใจบูชาต้องอ่าน รับรู้ถึงวิธีร่วมสักการะท้าวมหาพรหม ราชประสงค์ จากความเชื่อว่า  พระพรหมเป็นผู้สร้าง  ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่งในโลก หากใครที่อธิษฐานและบูชาพระพรหมด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ เชื่อว่าจะได้รับพร ให้สมหวังในสิ่งที่มุ่งหวังไว้ และเนื่องจากพระพรหมมี 4 พักตร์ จึงต้องบูชาพระพรหมให้ครบทั้ง 4 พักตร์ 4 ทิศ การไหว้ให้ครบทุกพักตร์จะเป็นการได้รับพรครบทุกประการ  การสวดบูชาพระพรหม จำเป็นต้องสวดบูชาพระพิฆเนศก่อนทุกครั้ง ซึ่งเป็นกฎการไหว้เทพของศาสนาพราหมณ์ทุกนิกาย ความเชื่อในการไหว้พระพรหมนั้นเป็นความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนานในสังคมไทย จะเห็นได้ว่าในหลายๆ สถานที่ทั่วประเทศไทยนั้นมีการตั้งรูปพรพรหมไว้สักการะกันอย่างมากมาย ในบทความนี้จะมาแนะนำถึงขั้นตอน และวิธีการต่างๆ ในการไหว้พระพรหมอย่างถูกต้อง ที่มาของความเชื่อในเรื่องนี้ รวมไปถึงสถานที่สักการะพระพรหมยอดฮิตในประเทศไทย ขั้นตอนการไหว้พระพรหมอย่างถ...

กิจกรรมใน “วันเข้าพรรษา” มีอะไรบ้าง ?

  วันเข้าพรรษา  เป็นวันที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า “จำพรรษา” นั่นเอง โดย วันเข้าพรรษา 2565ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม หรือ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ประวัติวันเข้าพรรษา            “ เข้าพรรษา”  แปลว่า “พักฝน” หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน โดยแบ่งเป็น            –  ปุริมพรรษา หรือ วันเข้าพรรษาแรก  เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี หรือถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง และออกพรรษาในวันขึ้น...