ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตำนานความเชื่อ เกี่ยวกับ ท้าวเวสสุวรรณ

 


หากพูดถึง “ท้าวเวสสุวรรณ” แล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเติบโตมาพร้อมกับความทรงจำเกี่ยวกับท่านในวัยเด็ก เนื่องจากตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้วคนไทยนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็กเพื่อป้องกันวิญญาณ รวมถึงสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ไม่ให้มารังควานเด็ก ซึ่งยักษ์ในรูปนั้นก็คือท้าวเวสสุวรรณนั่นเอง

ท้าวเวสสุวรรณ” เป็นเทพเจ้าแห่งอสูรยักษ์ รวมถึงภูตผีปีศาจ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ที่ปกป้องคุ้มครองดูแลโลกมนษุย์ ทรงประทับอยู่ทางทิศเหนือ ตามตำนานทางพระพุทธศาสนาเชื่อกันว่าในอดีตชาติท่านเคยเป็นพราหมณ์ที่ใจบุญ ท่านเปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย และมักจะบริจาคเงินทองให้แก่ผู้ยากไร้ ด้วยบุกุศลที่ท่านบำเพ็ญมา พระพรหมและพระอิศวรจึงให้พรความเป็นอมตะแก่ท่าน เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั่วปฐพี และเป็นเทพแห่งความร่ำรวย ดังนั้นผู้คนจึงนิยมกราบไหว้บูชาท่าน

ครั้งเมื่อท้าวเวสสุวรรณกำเนิดเป็นมนุษย์ ก็มีจิตใจใฝ่ในธรรมเช่นเดียวกับบรรพบุรุษ จึงเข้าป่าบำเพ็ญตบะด้วยการอดอาหารจนสามารถบรรลุฌานสมาบัติ จนพระพรหมและพระอินทร์เสด็จลงมาประทานพร แด่เวสสุวรรณมหามุณี ท้าวเวสสุวรรณขอพรว่า ขอให้ มีอำนาจครอบงำโลก เป็นผู้รักษาโลก เป็นผู้ไม่มีวันตาย เป็นเจ้าแห่งทรัพย์ทั้งหลาย ท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาโลกทางทิศหนึ่งเป็นโลกบาล และเป็นหนึ่งในสี่ท้าวจตุโลกบาล

และยังมีอีกตำนานหนึ่งที่เชื่อกันว่าท่านเคยเป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์ มีพระนามว่า “พระเจ้าพิมพิสาร” เป็นพระสหายของเจ้าชายสิทธัตถะ ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ทรงมาโปรดพระเจ้าพิมพิสารจนบรรลุเป็นโสดาบัน และได้ถวายพระเวฬุวันมหาวิหารให้พระพุทธเจ้าเข้าประทับ จึงเป็นอานิสงส์ให้ได้วิมานอันสวยงาม รวมถึงทรัพย์สมบัติมากมาย แต่ในขณะที่บางตำราก็ว่ากันว่าท้าวเวสสุวรรณเป็นพี่ชายต่างมารดาของทศกัณฐ์ อย่างไรก็ตามใครจะเชื่อตำนานไหนก็สุดแล้วแต่กันเนาะ สิ่งสำคัญก็คือผู้คนให้ความเคารพ ศรัทธาและนับถือท่านเป็นจำนวนมากเนื่องจากความศักดิ์สิทธิ์ของท่านนั่นเอง ดังนั้นในปัจจุบันเราจึงมักเห็นผู้คนนิยมกราบไหว้บูชาท้าวเวสสุวรรณกัน รวมถึงพกรูปของท่านติดตัวไว้เพื่อกราบไหว้บูชาหรือขอพรกันด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและช่วยให้รอดพ้นจากภัยอันตรายนั่นเอง  

หากใครที่อยากไปกราบไหว้ บูชาท้าวเวสสุวรรณ มีสร้างรูปท่านไว้ให้คนไปสักการะหลายสถานที่ ที่นิยมกันมาก็มี วัดจุฬามณี ที่สมุทรสงคราม หรือถ้าในกรุงเทพฯ ก็วัดสุทัศน์เทพวราราม ส่วนใหญ่สถานที่ที่มีรูปเคารพท่านมักมีชื่อเสียงในการสร้างรูปท่านเป็นวัตถุมงคลรูปท้าวเวสสุวรรณ  วัดสุทัศน์ฯนั้นเกิดขึ้นเมื่อท่านเจ้าคุณมงคลราชมุณี (สนธิ์) หรือที่คนทั่วไปเรียกท่านว่าท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์ เป็นศิษย์สมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์ เป็นผู้สืบทอดตำราสร้างพระกริ่ง ของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) รวมทั้งได้รับความกรุณจากหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์ เป็นผู้สร้างวัตถุมงคลรูปท้าวเวสสุวรรณขึ้นและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก สำนักวัดจุฬามณีนั้น ท้าวเวสสุวรรณ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยหลวงพ่อเนื่อง จนปัจจุบัน มาเป็นพระอาจารย์ อิฎฐ์ 

ว่ากันว่าหากจะไปสักการะท้าวเวสสุวรรณวัดสุทัศน์ฯ นั้นบูชาด้วยดอกไม้สีแดงคนจะเอากุหลาบแดงไปกราบท่านเป็นอันมาก ความเชื่ออย่างหนึ่งของการไปกราบท้าวเวสสุวรรณที่ วัดสุทัศน์ฯ เพราะพระวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ คือ ใจกลางมหานคร หรือ สะดือเมืองนั่นเอง

การไหว้พระขอพรนั้น หากจะให้สัมฤทธิ์ผล คนเฒ่าคนแก่มักสอนกันว่าเราต้องรู้ว่า คนที่เราขอพรท่าน เป็นใครมีประวัติความเป็นมาอย่างไร และขอพรในสิ่งที่ท่านอำนาจให้ได้ เรื่องพอพรเทพนั้นจะนำมาเเล่าในโอกาสหน้า โอกาสนี้เล่าเรื่องท้าวเวสสุวรรณให้เป็นที่พึ่งกันไปก่อน ก่อนไปไหว้เทพอย่าลืมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้มีเหตุและมีผล เทพยดาจะอำนวยพรให้คน ก็ต่อเมื่อมีเหตุปัจจัยที่ดี ถ้าไม่ได้ทำดี ทำบุญจะเอาเหตุอะไรมาให้เกิดผลคือความสุข เช่นกันหากไม่ขยันประกอบสัมมาอาชีวะจะไปร่ำรวยได้อย่างไรกันล่า 
อ่านบทความเพิ่มเติม www.dharayath.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สังฆทาน คือ อะไรและมีความหมาย รวมถึงมีกี่ประเภท

  สังฆทาน คือ อะไร ถ้าแปลตามคำศัพท์เป็นศัพท์ในพระสูตร เป็นชื่อเรียกการถวายทานแก่พระสงฆ์อย่างหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามีอานิสงส์มาก ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทักขิณาวิภังคสูตร ว่าการถวายสังฆทานแก่คณะพระสงฆ์ มีอานิสงส์มากกว่าการถวายทานเฉพาะเจาะจงแก่พระพุทธเจ้า แม้ยังทรงพระชนม์อยู่ ถ้าแยกความหมายเเล้ว  สังฆะ แปลว่า กลุ่ม หรือหมู่  ส่วน ทาน แปลว่าการให้ รวมความหมายได้ว่า ทานที่ถวายให้แก่กลุ่มพระสงฆ์โดยไม่เจาะจงพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง ผู้ทำบุญสามารถถวายอะไรก็ได้ที่เห็นว่าเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของพระสงฆ์ สังฆทานมีกี่ประเภท การถวายโดยอุทิศให้แก่สงฆ์ โดยอุทิศให้เป็นเผดียงสงฆ์ (ไม่ระบุเฉพาะว่าจะถวายรูปไหน) เช่นการถวายสลากภัต แม้พระจะได้รับของที่ถวายแค่รูปเดียว แต่ถือได้ว่าพระสงฆ์ที่มารับถวายเป็นพระที่ได้รับมอบหมายจากสงฆ์ ก็นับเป็นสังฆทานเช่นกัน ให้ทานในสงฆ์ 2 ฝ่าย (ทั้งฝ่ายภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์) มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ให้ทานในสงฆ์ 2 ฝ่าย ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ให้ทานในภิกษุสงฆ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ให้ทานในภิกษุณีสงฆ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว เผดียง...

ไหว้พระพรหม ที่ไหนดี และ ไหว้ยังไงให้ปัง ? ฉบับ ธาราญา !!

  พระพรหม หนึ่งในสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นที่นิยมนับถือทั้งคนไทยและต่างชาติ ไหว้พระพรหมยังไงให้ปัง ใช้ธูปกี่ดอก ขอพรให้สมหวัง ผู้ที่สนใจบูชาต้องอ่าน รับรู้ถึงวิธีร่วมสักการะท้าวมหาพรหม ราชประสงค์ จากความเชื่อว่า  พระพรหมเป็นผู้สร้าง  ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่งในโลก หากใครที่อธิษฐานและบูชาพระพรหมด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ เชื่อว่าจะได้รับพร ให้สมหวังในสิ่งที่มุ่งหวังไว้ และเนื่องจากพระพรหมมี 4 พักตร์ จึงต้องบูชาพระพรหมให้ครบทั้ง 4 พักตร์ 4 ทิศ การไหว้ให้ครบทุกพักตร์จะเป็นการได้รับพรครบทุกประการ  การสวดบูชาพระพรหม จำเป็นต้องสวดบูชาพระพิฆเนศก่อนทุกครั้ง ซึ่งเป็นกฎการไหว้เทพของศาสนาพราหมณ์ทุกนิกาย ความเชื่อในการไหว้พระพรหมนั้นเป็นความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนานในสังคมไทย จะเห็นได้ว่าในหลายๆ สถานที่ทั่วประเทศไทยนั้นมีการตั้งรูปพรพรหมไว้สักการะกันอย่างมากมาย ในบทความนี้จะมาแนะนำถึงขั้นตอน และวิธีการต่างๆ ในการไหว้พระพรหมอย่างถูกต้อง ที่มาของความเชื่อในเรื่องนี้ รวมไปถึงสถานที่สักการะพระพรหมยอดฮิตในประเทศไทย ขั้นตอนการไหว้พระพรหมอย่างถ...

กิจกรรมใน “วันเข้าพรรษา” มีอะไรบ้าง ?

  วันเข้าพรรษา  เป็นวันที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า “จำพรรษา” นั่นเอง โดย วันเข้าพรรษา 2565ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม หรือ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ประวัติวันเข้าพรรษา            “ เข้าพรรษา”  แปลว่า “พักฝน” หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน โดยแบ่งเป็น            –  ปุริมพรรษา หรือ วันเข้าพรรษาแรก  เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี หรือถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง และออกพรรษาในวันขึ้น...