ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วิธี สะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา ฉบับ ธาราญา !!

 



การสะเดาะเคราะห์ เป็นการทำพิธีตามความเชื่อโบราณว่าจะสามารถส่งเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้นมักรวมไปถึงการต่ออายุ หรือแก้ไขสิ่งเลวร้ายให้กลายเป็นดีการเริ่มทำบุญตั้งแต่ต้นปีก็จะเพิ่มดวง เสริมสง่าราศีให้ชีวิตมีความสุขและประสบความสำเร็จตลอดทั้งปีและตลอดไป ทั้งนี้พิธีสืบชะตา ต่ออายุ และสะเดาะเคราะห์ เป็นพิธีกรรมหนึ่งที่กระจายอยู่ในวัฒนธรรมแถบเอเชีย โดยเฉพาะในหมู่ชาวพุทธทุกนิกาย ทั้งชาวไทย จีน ไปจนถึงทิเบต รูปแบบประเพณี ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของท้องถิ่น สำหรับการสะเดาะเคราะห์ที่ชาวไทยนิยมกระทำนั้นได้แก่ อันได้แก่

1. ถือศีล 5 การถือศีล 5 เป็นประจำจะช่วยเสริมดวงชะตา และจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีงามการทำดีและไม่เบียดเบียนใครถือเป็นการทำบุญกุศลที่ได้อานิสงส์เป็นผลให้เกิดความโชคดี และแก้เคราะห์ลดกรรมได้

2. การถือศีล 8 จะช่วยเสริมดวงและแก้เคราะห์ได้เช่นเดียวกับการถือศีล 5 แต่การถือศีล 8 นั้นปฏิบัติได้ยากยิ่งแต่เมื่อปฏิบัติได้สำเร็จจะได้กุศลแรงนักปฏิบัติแล้วยังช่วยเสริมดวงอำนาจบารมีได้

3. กินเจ ก็เพื่อลดละชีวิตสัตว์ ซึ่งได้อานิสงส์ผลบุญสูงและควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดถ้าอธิษฐานไว้ว่า 7 วัน ก็ทำให้ครบ 7 วัน อาจตั้งจิตว่าจะทำทุกวันพระและทุกเดือนหรือปฏิบัติทุกเดือน เดือนละ 3 วัน หรือ 7 วัน เป็นต้น

4. ไหว้พระและถวายดอกไม้ ธูปเทียน รวมทั้งการปิดทองคำเปลวและเครื่องหอมผลบุญนี้จะทำให้ชีวิตรุ่งเรือง มีความเจริญก้าวหน้า

5. ถวายน้ำมันตะเกียง เพื่อความรุ่งโรจน์โชติช่วงของชีวิตเช่นเดียวกับความสว่างของแสงตะเกียง ทำให้พ้นจากความมืดมิดทั้งการดำเนินชีวิตรวมทั้งปัญหาและความคิดที่สว่างไสวไม่อับจนหนทาง

6. ถวายสังฆทาน เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยถวายสิ่งของจำเป็นแด่พระสงฆ์อานิสงส์ผลบุญจะส่งให้ชีวิตหมดเคราะห์หมดโศก จะทำสิ่งใดก็ราบรื่นไม่ติดขัดพบแต่ความสำเร็จสมปรารถนา รวมทั้งมีความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์ ไม่ขัดสน

7. ไหว้พระไหว้บูชาเทพต่างๆ จะทำให้พบกับความสุข ความเจริญเกิดความสุขใจว่ามีที่พึ่งพิงยึดเหนี่ยวนำมาซึ่งกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไปและรู้สึกเสมอว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง

8. ทำบุญปล่อยสัตว์ เป็นการไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น แต่ถือว่าได้บุญแรง จะต้องทำด้วยความตั้งใจจริงเช่น การไปซื้อสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่าไปปล่อยไถ่ชีวิตวัวควายถวายวัดเพื่อมอบให้ชาวนานำไปใช้ประโยชน์ซื้อปลาในตลาดที่จะถูกฆ่าไปปล่อยน้ำ ผลบุญนี้ยังผลให้หมดทุกข์ หมดภัยและพบความสุขความเจริญในชีวิต

9. ทำบุญ ให้ทาน เป็นการรู้จักเสียสละตนเองและแบ่งปันให้ผู้อื่นซึ่งผลบุญจะเกิดขึ้นได้นั้นต้องมีจิตใจยินดีในการทำบุญให้ทานด้วยไม่ว่าจะเป็นการบำรุงพุทธศาสนา หรือการให้ทานเกื้อกูลคนยากไร้ล้วนแล้วแต่เป็นบุญส่งเสริมให้ชีวิตมีโชค มีทรัพย์ และมากด้วยบารมี

10. ทำทานแก่คนยากไร้ เป็นการทำบุญที่มาจากจิตใจอันไม่ยึดติดมีความไม่โลภผลบุญจึงหนุนนำให้มีแต่ความราบรื่น ยามมีเรื่องติดขัดก็จะมีผู้มาช่วยเหลือค้ำจุนยามมีเคราะห์ภัยก็จะแคล้วคลาดเพราะแรงอนุโมทนาจิตจากผู้ยากไร้ที่ได้รับสิ่งของจากเรานั่นเอง

11. ทำบุญโลงศพซื้อโลงศพบริจาคศพอนาถาไร้ญาติ จะได้อานิสงส์แรงยิ่งนักการทำบุญเช่นนี้จะช่วยเสริมดวงชะตาให้แข็งแกร่ง สามารถต้านเคราะห์ภัยหนักต่างๆและผ่อนหนักเป็นเบาได้

12. พิมพ์หนังสือธรรมะแจก จัดพิมพ์เองหรือร่วมบริจาคสมทบทุนการพิมพ์กับผู้อื่นก็ได้เป็นการเสริมดวงให้มีวาสนาบารมี เพื่อให้ปัญญาสว่าง หมดทุกข์ หมดโศกไม่มีเคราะห์ร้ายมากล้ำกราย

13. บริจาคค่าน้ำ ค่าไฟ จะช่วยให้ชีวิตราบรื่น หมดทุกข์ หมดโศก ประสบแต่ความโชคดี

14. ซื้อข้าวสารถวายวัด เป็นการสั่งสมบุญกุศล เพื่อให้ชีวิตมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์และเพียบพร้อมด้วยบารมี

15. การตักบาตรร่วมขันกับผู้อื่นหรือทำบุญร่วมกับผู้อื่นไม่ว่าจะทำบุญด้วยการบริจาคทรัพย์หรือโดยทางอื่น จะส่งผลให้เนื้อคู่ดูดีดวงชะตาแข็งแกร่ง เกื้อกูลซึ่งกันและกันและจะได้แต่เพื่อนที่ดีในชาตินี้

16.ทำบุญร่วมบริจาคเพื่อซื้อกระเบื้องมุงหลังคาอุโบสถ เสริมดวงตำแหน่งหน้าที่การงานและการสร้าง หลักปักฐาน


17.ทำบุญจัดอาหารเลี้ยงเด็กกำพร้า เสริมดวงการเงิน ค้าขายรุ่งเรือง ลูกหลานหมดปัญหา

18.ทำบุญซื้อชีวิตวัวควาย เสริมดวงชะตาชีวิต ต่ออายุ สะเดาะเคราะห์ทั้งปวง

19.ทำบุญทอดผ้าป่า-กฐิน เสริมดวงชะตาชีวิตให้มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง

20.ทำบุญตักบาตร เสริมดวงโชคลาภ และสมความปรารถนา หากตักบาตรด้วยอาหารที่ไม่มีเลือดเนื้อของสัตว์จะได้บุญครบถ้วนไม่ตกหล่น

21.ทำบุญถวายดอกไม้ ธูป เทียน เสริมดวงชะตาชีวิตให้มีความสุข ความเจริญ ชีวิตสดใสสวยงาม

22.ทำบุญสร้างพระพุทธรูป จะเสริมอำนาจวาสนาในชาตินี้ ชาติหน้าจะได้เป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่

23.ทำบุญร่วมสร้างสะพานและทางสัญจร ชาติหน้าจะบริบูรณ์ด้วยรถ เรือ และยานพาหนะ

24.ทำบุญร่วมสร้างศาลาริมทาง ชาติหน้าจะมีคฤหาสน์ใหญ่โตเป็นที่อยู่อาศัย

25.ทำบุญบริจาคเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ชาติหน้าจะมีเสื้อผ้าแพรพรรณสวย ๆ สวมใส่ตลอดไป

26.ทำบุญสวดมนต์ภาวนาระลึกถึงพระพุทธเจ้า ชาติหน้าจะเป็นคนมีสติปัญญาหลักแหลม


            สิ่งต่างๆที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนหนึ่งที่ตกทอดกันมาแต่โบราณกาล ไม่มีใครสามารถจะยืนยันได้ถึงผลที่จะตามมาหลังจากที่คุณได้กระทำตามความเชื่อเหล่านี้แล้ว แต่อย่างหนึ่งที่คุณจะได้รับก็คือการกระทำที่เสริมสร้างกำลังใจให้เกิดขึ้นแก่ตัวคุณเอง เพื่อดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมั่นคงในอนาคต

ส่วนการเสริมดวง

ถ้าจะพูดถึงเรื่องเสริมดวงบางคนเข้าใจว่าต้องเป็นการเข้าวัดทำบุญ หรือทำวิธีเดียวกับการสะเดาะเคราะห์ แต่แท้ที่จริงแล้ว การเสริมดวงมีวิธีอีกมากมายที่จะช่วยเสริมดวงให้ดีขึ้นมาได้รวมไปถึงเรื่องราวต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณเสริมดวงได้ โดยเฉพาะเรื่องของดวงการเงิน ซึ่งสามารถเสริมดวงได้จากสิ่งของรอบตัวที่คุณคุ้นเคยและหาได้ง่ายๆ ดังนี้

กระเป๋าสตางค์

เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่เสมอในวันขึ้นปีใหม่พร้อมใส่เงินขวัญถุงให้ได้จำนวนเป็นเลข 9 เช่น 90, 900 โดยใส่ไว้ในกระเป๋าสักหนึ่งวันเต็มๆ เพื่อเอาเคล็ดเอาฤกษ์ ให้กระเป๋าใบนั้นเป็นกระเป๋าที่ดีเรียกเงินเรียกทองเข้ามาได้มากๆ มีเก็บมากกว่าจะต้องควักออกไป และทุกครั้งที่รับเงินสดเข้ามาควรนำเงินมาใส่กระเป๋าเอาไว้ก่อน บางคนอาจจะยังคงปล่อยเงินไว้ในซองแล้วก็นำไปฝากธนาคารซึ่งถ้าจะเอาเคล็ดเรียกโชคกันจริงๆ ตามความเชื่อโบราณก็ควรเอาเงินเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ก่อน

พลังของวิญญาน

อย่านำโปสเตอร์, รูปภาพหนังผี คนบาดเจ็บจากนิตยสารที่มีแต่ความน่ากลัวมาติดผนังบ้าน หรือรูปคนตายมาติดประดับไว้ที่ห้อง (ยกเว้นภาพถ่ายบุคคลในครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้ว) ทางที่ดีหลีกเลี่ยงภาพน่ากลัว หรือดูดุร้ายเพราะล้วนเป็นแหล่งเรียกคลื่นพลังงานที่ไม่เป็นมงคล จะทำให้โชคลาภหดหาย คนในบ้านจะมีแต่เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น การนำภาพมาติดผนังหรือประดับบ้านควรเลือกภาพที่ดูสวยงามน่ามองมาติดจะดีกว่า

เตียงนอน

อย่าตั้งเตียงนอนโดยเอาหัวเตียงหันไปชนกับผนังห้องน้ำ เพราะจะทำให้เสื่อมโชคอับโชค อย่าตั้งเตียงนอนโดยหันปลายเตียงเล็งตรงกับประตูทางเข้าพอดี เพราะจะทำให้ฝันร้าย

สุนัขแมวจรจัด

แบ่งอาหารและน้ำให้แก่สุนัขหรือแมวจรจัดที่หิวโหยบ้าง หรือในวันฝนตกก็อนุญาตให้สัตว์จรจัดเข้ามาหลบฝนในชายคาบ้าน การทำบุญทำทานกับสัตว์นั้นให้อานิสงส์ผลบุญแก่ตัวเราได้อย่างมหาศาล

ครัว

ดูแลปัดกวาดเช็ดถูและจัดข้าวของเครื่องใช้ในครัวให้สะอาดอยู่เสมออย่าปล่อยให้ครัวสกปรกเพราะ ครัวเป็นขุมพลังของบ้าน บ้านที่ปล่อยให้ครัวสกปรกจะอับโชคเงินทองถ้าหามาได้ก็ต้องจ่ายออกไป

ผ้าเช็ดหน้า

อย่าให้ของขวัญคนรักหรือเพื่อนสนิทเป็นผ้าเช็ดหน้า เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดีถือเป็นของขวัญอับโชคมอบให้กันแล้วจะมีเรื่องต้องพลัดพรากจากกันหรือมีเรื่องต้องห่างเหินกันไป (โบราณท่านว่าหากใครให้ผ้าเช็ดหน้าเป็นของขวัญ มีอันต้องจากลา หรือมีเรื่องที่ทำให้เสียใจจนต้องนำผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมาเช็ดน้ำตา)

กระจก

ขัดถูกระจกในบ้านให้สะอาดใสอยู่เสมอ ถ้าปล่อยให้กระจกขุ่นมัวเป็นประจำดวงชะตา ของคนในบ้านจะหม่นหมองทำอะไรไม่ขึ้น

วันบริสุทธิ์

วันที่ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก คือ วันโกน, วันพระ, วันเกิด และวันเข้าพรรษา ตามธรรมเนียมโบราณนิยมปฏิบัติกันเช่นนี้ เพื่อให้เทวดาคุ้มครองรักษาตลอดไป

แหวนเสริมดวง

เลือกสวมแหวนที่ถูกโฉลกกับเดือนเกิดหรือวันเกิดเพื่อเสริมโชคดีให้ชีวิต

ถ้าอยากเสริมดวงการเงิน – ควรสวมแหวนทอง , แหวนเงิน , แหวนหยก และแหวนหัวพลอยสีที่ถูกโฉลกกับตัวคุณ

ถ้าอยากเสริมดวงความรัก -ให้สวมแหวนรูปหัวใจ , รูปดาว , แหวนเพชร , เทอร์ควอยส์ก็ได้

ส่วนแหวนลูกปัดและหินสีต่างๆ จะช่วยเสริมเสน่ห์ เป็นที่รักของคนรอบข้าง

การสวมแหวน

สวมแหวนนิ้วกลาง ข้างขวา – เสริมดวงการเงินและบารมี

สวมแหวนนิ้วนาง หรือ นิ้วก้อย – เสริมเสน่ห์และเสริมดวงความรัก

หิ้งพระ

หิ้งพระหรือหิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเทพต่างๆ หรือรัชกาลที่ 5, ในหลวงของเราเมื่อตั้งหิ้งบูชาแล้วจะต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หมั่นเปลี่ยนดอกไม้, พวงมาลัย, ถวายน้ำให้สะอาด ถ้าปล่อยให้หิ้งสกปรกมีแต่ฝุ่นจับเต็มไปหมดบ้านนั้นจะมีแต่ความเสื่อมถอย โชคลาภหดหายยากที่จะเจริญรุ่งเรือง

ไข่และส้ม

ในบ้านเรือนควรมีไข่และมีส้มไว้ในตะกร้าเสมออย่าให้ขาด เพื่อเรียกความสมบูรณ์พูนสุขเข้าบ้าน ทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุขตลอดไป ไข่หรือส้มเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และความโชคดี

จะเห็นได้ว่าการสะเดาะเคราะห์และการเสริมดวงนั้น มีเคล็ดลับและวิธีที่แตกต่างกัน แต่ไม่ว่าท่านจะทำการสะเดาะเคราะห์ หรือทำการเสริมดวงก็สามารถช่วยส่งเสริมให้ชีวิตท่านนั้นพบแต่ส่งดีๆเข้ามาในชีวิตได้เช่นกัน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สังฆทาน คือ อะไรและมีความหมาย รวมถึงมีกี่ประเภท

  สังฆทาน คือ อะไร ถ้าแปลตามคำศัพท์เป็นศัพท์ในพระสูตร เป็นชื่อเรียกการถวายทานแก่พระสงฆ์อย่างหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามีอานิสงส์มาก ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทักขิณาวิภังคสูตร ว่าการถวายสังฆทานแก่คณะพระสงฆ์ มีอานิสงส์มากกว่าการถวายทานเฉพาะเจาะจงแก่พระพุทธเจ้า แม้ยังทรงพระชนม์อยู่ ถ้าแยกความหมายเเล้ว  สังฆะ แปลว่า กลุ่ม หรือหมู่  ส่วน ทาน แปลว่าการให้ รวมความหมายได้ว่า ทานที่ถวายให้แก่กลุ่มพระสงฆ์โดยไม่เจาะจงพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง ผู้ทำบุญสามารถถวายอะไรก็ได้ที่เห็นว่าเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของพระสงฆ์ สังฆทานมีกี่ประเภท การถวายโดยอุทิศให้แก่สงฆ์ โดยอุทิศให้เป็นเผดียงสงฆ์ (ไม่ระบุเฉพาะว่าจะถวายรูปไหน) เช่นการถวายสลากภัต แม้พระจะได้รับของที่ถวายแค่รูปเดียว แต่ถือได้ว่าพระสงฆ์ที่มารับถวายเป็นพระที่ได้รับมอบหมายจากสงฆ์ ก็นับเป็นสังฆทานเช่นกัน ให้ทานในสงฆ์ 2 ฝ่าย (ทั้งฝ่ายภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์) มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ให้ทานในสงฆ์ 2 ฝ่าย ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ให้ทานในภิกษุสงฆ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ให้ทานในภิกษุณีสงฆ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว เผดียง...

ไหว้พระพรหม ที่ไหนดี และ ไหว้ยังไงให้ปัง ? ฉบับ ธาราญา !!

  พระพรหม หนึ่งในสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นที่นิยมนับถือทั้งคนไทยและต่างชาติ ไหว้พระพรหมยังไงให้ปัง ใช้ธูปกี่ดอก ขอพรให้สมหวัง ผู้ที่สนใจบูชาต้องอ่าน รับรู้ถึงวิธีร่วมสักการะท้าวมหาพรหม ราชประสงค์ จากความเชื่อว่า  พระพรหมเป็นผู้สร้าง  ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่งในโลก หากใครที่อธิษฐานและบูชาพระพรหมด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ เชื่อว่าจะได้รับพร ให้สมหวังในสิ่งที่มุ่งหวังไว้ และเนื่องจากพระพรหมมี 4 พักตร์ จึงต้องบูชาพระพรหมให้ครบทั้ง 4 พักตร์ 4 ทิศ การไหว้ให้ครบทุกพักตร์จะเป็นการได้รับพรครบทุกประการ  การสวดบูชาพระพรหม จำเป็นต้องสวดบูชาพระพิฆเนศก่อนทุกครั้ง ซึ่งเป็นกฎการไหว้เทพของศาสนาพราหมณ์ทุกนิกาย ความเชื่อในการไหว้พระพรหมนั้นเป็นความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนานในสังคมไทย จะเห็นได้ว่าในหลายๆ สถานที่ทั่วประเทศไทยนั้นมีการตั้งรูปพรพรหมไว้สักการะกันอย่างมากมาย ในบทความนี้จะมาแนะนำถึงขั้นตอน และวิธีการต่างๆ ในการไหว้พระพรหมอย่างถูกต้อง ที่มาของความเชื่อในเรื่องนี้ รวมไปถึงสถานที่สักการะพระพรหมยอดฮิตในประเทศไทย ขั้นตอนการไหว้พระพรหมอย่างถ...

กิจกรรมใน “วันเข้าพรรษา” มีอะไรบ้าง ?

  วันเข้าพรรษา  เป็นวันที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า “จำพรรษา” นั่นเอง โดย วันเข้าพรรษา 2565ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม หรือ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ประวัติวันเข้าพรรษา            “ เข้าพรรษา”  แปลว่า “พักฝน” หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน โดยแบ่งเป็น            –  ปุริมพรรษา หรือ วันเข้าพรรษาแรก  เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี หรือถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง และออกพรรษาในวันขึ้น...