ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผ้าอาบน้ำฝนกับประเพณีเข้าพรรษา !!

 


ผ้าอาบน้ำฝนที่เรียกกันว่า “วัสสิกพัตร” นั้นเป็นสิ่งที่ชาวพุทธในภาคเหนือนิยมแก่พระสงฆ์ในงานเข้าพรรษา เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่พระสงฆ์ ที่เข้าประจำอยู่ในวัด พระยาอนุมานราชธนได้เขียนไว้ในเรื่องเกี่ยวกับพิธีกรรมของชาวพุทธอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวกับวันเข้าพรรษา คือการถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่ภิกษุสงฆ์เดิมทีเดียวนั้น

พระพุธเจ้าทรงอนุญาตให้ ภิกษุใช้ผ้า 3 ผืน ซึ่งรวมเรียกว่าไตรจีวร คือ สบง ได้แก่ ผ้านุ่ง 1 จีวร ได้แก่ผ้าห่ม 1 สังฆาฏิ ได้แก่ผ้าพาดบ่า ยังไม่ได้ทรงอนุญาตให้ใช้ผ้าอาบน้ำฝนครั้นเวลาฝนตกภิกษุที่จะอาบน้ำฝนก็ไม่มีผ้าที่จะนุ่งอาบ จะต้องเปลือยกายอาบน้ำฝน วันหนึ่งนางวิสาขา ใช้หญิงคนใช้ให้เข้าไปในวัดขณะฝนตก หยิงคนใช้เห็นภิกษุเปลือยกาย อาบน้ำฝนเข้าใจว่าเป็นพวกเดียรถียร์ จึงกลับไปบอกนางวิสาขาจึงได้กราบทูลพระพุทธเจ้าเพื่อขอพระบรมพุทธานุญาตถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่ภิกษุขอให้ภิกษุรับผ้าอาบน้ำฝนตั้งแต่นั้นมา และได้กลายเป็นประเพณีถวายผ้าอาบน้ำฝนจนบัดนี้

ผ้าอาบน้ำฝนนั้น มีกำหนดไว้ตามที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตคือ กว้างศอกคืบ 14 นิ้ว 1 กระเบียดกับ 2 อนุกระเบียด ยาว 4 ศอกกับ 3 กระเบียด ทำยาวหรือกว้างกว่านี้ใช้ไม่ได้เป็นโทษแก่ภิกษุ เวลาที่จะถวายผ้าอาบน้ำฝนนั้น มีพระพุทธบัญญัติไว้ ตั้งแต่แรม 1 ค่ำเดือน 7 ถึงขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 เป็นเวลาก่อนเข้าพรรษา 1 เดือน เวลานี้เป็นระยะเวลาที่ภิกษุจะแสวงหาผ้าอาบน้ำฝนได้ ผู้ประสงค์ที่บำเพ็ญถูกต้องตาม พระพุทธานุญาต จึงหาผ้าอาบน้ำฝนมาถวายในระยะนี้ ที่ปฏิบัติกันทั่วไป นิยมถวายกันในวันขึ้น 15 ค่ำก่อนพรรษา 1 วัน เพราะวันนี้เป็นวันธรรมสวนะและเป็นวันอาสาฬหบูชาด้วย พุทธศาสนิกชนทั่วไปประชุมกันที่วัดเป็นปกติอยู่แล้ว จึงถือโอกาสถวายผ้าอาบน้ำฝนในวันนั้น

หน้าที่ของชาวพุทธ เมื่อถึงวันเข้าพรรษา นอกจากจะจัดดอกไม้ธูปเทียนและของใช้ประจำอื่นๆ เช่น สบู่ แปลงสีฟัน สีย้อมผ้า และยารักษาโรค เป็นต้น ไปถวายพระเถระอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ตนเคารพนับถือแล้ว พึงทำจิตใจของตนให้สะอาด ปราศจากความอิจฉาริษยาพยาบาท ให้อภัยในความผิดพลาดหรือสิ่งที่ล่วงเกินซึ่งกันและกันที่ตั้งใจและไม่ต้องใจ ไม่ถือเป็นสาเหตุโกรธเคืองกัน เพื่อเป็นกำลังใจในการบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาเพื่อให้เจริญถาวร ก้าวหน้าเป็นพุทธบูชา และตั้งจิตอธิษฐานว่า จะงดเว้นจากความชั่วทั้งปวง ประกอบแต่คุณงามความดี ตลอดเวลา เดือนในพรรษานี้ ก็จะเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่เพื่อที่จะบันดาลให้ได้รับความสุขอันยิ่งใหญ่ในจิตใจ อันสืบเนื่องมาจากมีความอิจฉาพยาบาทในจิตใจ และผลจากการบำเพ็ญคุณงามความดีตามที่ได้อธิษฐานใจไว้ตามควรแก่อัตภาพ

ในวันเข้าพรรษา

เมื่อถึงวันเข้าพรรษานอกจากทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ปฏิบัติธรรมก็จะมีการถวายผ้าอาบน้ำฝนรวมอยู่ด้วย การถวายผ้าอาบน้ำฝนแม้จะไม่มีการกำหนดวัน แต่โดยมากจะทำบุญถวายกันในวันเข้าพรรษา การถวายนั้นมีทั้งถวายแบบเจาะจง ถวายแบบสังฆทานไม่เจาะจงพระรูปหนึ่งรูปใดและในรูปแบบนี้จัดเป็นแบบสลากภัต การทำบุญเป็นเรื่องของการชำระใจให้สะอาด สุขใจที่ได้ทำในสิ่งดี ๆ และหากมีความตั้งใจทั้งก่อนให้ ขณะที่ให้และหลังจากการให้ จิตใจที่ปลื้มปีติทั้งสามเวลาเหล่านี้ก็จะก่อเกิด บุญเกิดความปีติสุขใจ

นอกจากนี้ช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษายังมีประเพณีท้องถิ่นที่ได้รับการกล่าวขานเป็นที่รู้จักอย่าง การทำบุญตักบาตร ดอกไม้ ดอกเข้าพรรษา อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่ดีอีกมากมายที่ใช้ช่วงเวลาที่มีความหมายนี้เป็นการเริ่มต้น อย่าง การงดเหล้าเข้าพรรษา งดอบายมุขหรือแม้แต่การรณรงค์ปลูกต้นไม้ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสอดคล้องกับสภาพอากาศอีกทั้งยังช่วยลดภาวะโลกร้อน นักวัฒนธรรมกล่าวทิ้งท้าย จากสองวาระสำคัญทางพุทธศาสนาวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาในปีนี้ นับเป็นอีกโอกาสที่ดีต่อการตั้งมั่นทำบุญสร้างกุศล ตั้งจิตอธิษฐานปฏิบัติตัวเริ่มต้นทำสิ่งดีงาม ลด ละ เลิกอบายมุขทั้งหลายทั้งปวง บุญกุศลที่เกิดขึ้นก็จะก่อเกิดความสุขความปิติเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สังฆทาน คือ อะไรและมีความหมาย รวมถึงมีกี่ประเภท

  สังฆทาน คือ อะไร ถ้าแปลตามคำศัพท์เป็นศัพท์ในพระสูตร เป็นชื่อเรียกการถวายทานแก่พระสงฆ์อย่างหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามีอานิสงส์มาก ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทักขิณาวิภังคสูตร ว่าการถวายสังฆทานแก่คณะพระสงฆ์ มีอานิสงส์มากกว่าการถวายทานเฉพาะเจาะจงแก่พระพุทธเจ้า แม้ยังทรงพระชนม์อยู่ ถ้าแยกความหมายเเล้ว  สังฆะ แปลว่า กลุ่ม หรือหมู่  ส่วน ทาน แปลว่าการให้ รวมความหมายได้ว่า ทานที่ถวายให้แก่กลุ่มพระสงฆ์โดยไม่เจาะจงพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง ผู้ทำบุญสามารถถวายอะไรก็ได้ที่เห็นว่าเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของพระสงฆ์ สังฆทานมีกี่ประเภท การถวายโดยอุทิศให้แก่สงฆ์ โดยอุทิศให้เป็นเผดียงสงฆ์ (ไม่ระบุเฉพาะว่าจะถวายรูปไหน) เช่นการถวายสลากภัต แม้พระจะได้รับของที่ถวายแค่รูปเดียว แต่ถือได้ว่าพระสงฆ์ที่มารับถวายเป็นพระที่ได้รับมอบหมายจากสงฆ์ ก็นับเป็นสังฆทานเช่นกัน ให้ทานในสงฆ์ 2 ฝ่าย (ทั้งฝ่ายภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์) มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ให้ทานในสงฆ์ 2 ฝ่าย ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ให้ทานในภิกษุสงฆ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ให้ทานในภิกษุณีสงฆ์ ในเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว เผดียง...

ไหว้พระพรหม ที่ไหนดี และ ไหว้ยังไงให้ปัง ? ฉบับ ธาราญา !!

  พระพรหม หนึ่งในสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นที่นิยมนับถือทั้งคนไทยและต่างชาติ ไหว้พระพรหมยังไงให้ปัง ใช้ธูปกี่ดอก ขอพรให้สมหวัง ผู้ที่สนใจบูชาต้องอ่าน รับรู้ถึงวิธีร่วมสักการะท้าวมหาพรหม ราชประสงค์ จากความเชื่อว่า  พระพรหมเป็นผู้สร้าง  ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่งในโลก หากใครที่อธิษฐานและบูชาพระพรหมด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ เชื่อว่าจะได้รับพร ให้สมหวังในสิ่งที่มุ่งหวังไว้ และเนื่องจากพระพรหมมี 4 พักตร์ จึงต้องบูชาพระพรหมให้ครบทั้ง 4 พักตร์ 4 ทิศ การไหว้ให้ครบทุกพักตร์จะเป็นการได้รับพรครบทุกประการ  การสวดบูชาพระพรหม จำเป็นต้องสวดบูชาพระพิฆเนศก่อนทุกครั้ง ซึ่งเป็นกฎการไหว้เทพของศาสนาพราหมณ์ทุกนิกาย ความเชื่อในการไหว้พระพรหมนั้นเป็นความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนานในสังคมไทย จะเห็นได้ว่าในหลายๆ สถานที่ทั่วประเทศไทยนั้นมีการตั้งรูปพรพรหมไว้สักการะกันอย่างมากมาย ในบทความนี้จะมาแนะนำถึงขั้นตอน และวิธีการต่างๆ ในการไหว้พระพรหมอย่างถูกต้อง ที่มาของความเชื่อในเรื่องนี้ รวมไปถึงสถานที่สักการะพระพรหมยอดฮิตในประเทศไทย ขั้นตอนการไหว้พระพรหมอย่างถ...

กิจกรรมใน “วันเข้าพรรษา” มีอะไรบ้าง ?

  วันเข้าพรรษา  เป็นวันที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า “จำพรรษา” นั่นเอง โดย วันเข้าพรรษา 2565ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม หรือ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ประวัติวันเข้าพรรษา            “ เข้าพรรษา”  แปลว่า “พักฝน” หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน โดยแบ่งเป็น            –  ปุริมพรรษา หรือ วันเข้าพรรษาแรก  เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี หรือถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง และออกพรรษาในวันขึ้น...